วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ครั้งที่ 13 วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน 2553

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วอาจารย์สั่งให้นักศึกษานำกระดาษลังมา เพื่อที่จะให้แต่ละคนทำป้ายนิเทศ โดยให้ใช้ความรู้ที่มีอยู่และความคิดสร้างสรรค์ของตัวเราเอง อาจารย์จะดู ความคิดสร้างสรรค์ ความเรียบร้อย ความปราณีต ความสะอาด และให้นักศึกาทำงานร่วมกัน โดยทุกคนมีความตั้งใจทำงานกันทุกคนต่างคนต่างวางแผนที่จะออกแบบทำป้ายนิเทศของตนเอง ทุกคนมีการแบ่งปันสิ่งของให้กันใช้ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน

ครั้ง 12 วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน 2553

อาจารย์สั่งให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มทำที่ใส่แป้งโดว์พร้อมอุปกรณ์เล่นกับแป้งโดว์มาส่ง

ครั้งที่ 11 วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน 2553




อาจารย์ให้เตรียมอุปกรณืมาทำแป้งโดว์ กลุ่มของดิฉันได้เตรียมกระทะไฟฟ้าไป และมีส่วนประกอบดังนี้
เกลือ 1/2 ถ้วย

แป้งสาลี 1 ถ้วย

สารส้มป่น 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำ 1 ถ้วย

ทาทาครีม 1 ช้อนโต๊ะ หรือใช้น้ำมันมะกอกแทนก็ได้
สีผสมอาหาร

*วิธีทำ*

นำเกลือแป้งสาลีสารส้มป่นผสมให้เข้ากันจากนั้นค่อยเติมนำและน้ำมันมะกอกทีละน้อยคนให้เข้ากันและวใส่สีผสมอาหารจากนั้นนำขึ้นตั้งไฟกวนจนแป้งไม่ติดภาชนะแล้วนำมานวด นำเก็บใส่ถาชนะให้มิดชิด(ไม่ต้องแช่เย็น)



ครั้งที่ 10 วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน 2553

อาจารย์นัดให้ส่งงาน Pop Up ที่สั่งในอาทิตย์ที่แล้ว 3 ชิ้น และนัดส่งงานที่ยังค้างอยู่อันเก่าทั้งหมด และให้นักศึกษาทำเกมการศึกษาคนละ 1 เกม

ครั้งที่ 9 วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน 2553

วันนี้อาจารย์นัดนักเรียนเรียนด้วยกันทั้ง 2 กลุ่ม อาจารย์นำเกมการศึกษามามากมายหลายชนิดและได้ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มเล่นเกมการศึกษา เกมมีหลากหลายแบบ เป็นเกมตัวอย่างในการทำเกมการศึกษา ในเกมแต่ละเกมก็จะมีสาระการเรียนรู้ที่มากมาย





และท้ายชั่วโมงอาจารย์ได้สั่งงานให้ทำ Pop up มา 3 รูปแบบ โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการในการออกแบบของเราเอง

ครั้งที่ 8 วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม 2553

จากที่เข้าอบรมในวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2553 ที่ผ่านมาอาจารย์ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับสื่อหลากหลายรูปแบบ และก็ได้สอนวิธีทำสื่อด้วยว่าทำอย่างไร อาจารย์มีตัวอย่างสื่อมาให้ดูมากมายหลายชนิด และอาจารย์ได้ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มเพื่อที่จะได้ทำงานเป็นกลุ่มกลุ่มละหนึ่งชิ้น กลุ่มของดิฉันได้จับคู่ภาพกับเงาพอได้หัวข้อมาแล้วว่าทำอะไรเพื่อนทุกคนในกลุ่มก็ต่างช่วยกันทำงาน และพอถึงท้ายชั่วโมงอาจารย์ได้ให้งานเป็นการบ้านกลับไปทำที่บ้าน (เป็นงานเดี่ยว)

วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ครั้งที่ 7 วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม 2553

*วันนี้อาจารย์ได้ให้ชีทเกมการศึกษาและอธิบายเกี่ยวกับเกมการศึกษา
เกมจับคู่ภาพกับความหมาย
จุดประสงค์ของเกมการศึกษา
-เพื่อให้เด็กได้รู้จักรูปภาพและความหมาย
คุณค่าของการเล่นเกม
-ฝึกทักษะพื้นฐานทางด้านภาษาไทย
-ฝึกการสังเกตรูปภาพและความหมาย



วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ครั้งที่ 6 วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม 2553

การศึกษา คือ การพัฒนา
นักทฤษฎีโคเบริค์ จะกล่าวถึง คุณธรรม จริยธรรม
เกมการศึกษา คือ *เกมที่ก่อให้เกิดความรู้
*เกมการเล่นที่มีกฎกติกา
ความสำคัญ
*ทำให้สิ่งที่เป็นนามธรรมให้เป็นรูปร่าง
*ได้รับประสบการณ์ตรงจำได้นาน
*รวดเร็วเพลิดเพลิน,เข้าใจง่าย
ลักษณะของสื่อที่ดี
*ต้องมีความปลอดภัย
*ประโยชน์ที่เด็กได้รับเหมาะสมกับความสามารถของเด็ก,ความสนใจ
*ประหยัด
*ประสิทธิภาพ
หลักการเลือกสื่อฯ
*คุณภาพ
*เด็กเข้าใจง่าย
*เลือกให้เหมาะกับสภาพของศูนย์
*เหมาะสมกับวัย
*เหมาะสมกับเวลาที่ใช้
*เด็กได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม
*ถูกต้องตามเนื้อหา,ทันสมัย
*เด็กได้คิดเป็นทำเป็น,กล้าแสดงออก
การประเมินการใช้สื่อ (พิจารณาจากครูผู้ใช้สื่อ เด็ก และสื่อ)
-สื่อช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ครั้งที่ 5 วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม 2553


ได้นำเสนอเรื่องสื่อ
เกี่ยวกับสมุดฝึกหัดนับจำนวนสำหรับเด็ก
-เหมาะสำหรับเด็กในช่วงอายุ 3-4 ปี
วัตถุประสงค์
-ช่วยให้เด็กได้มีทักษะในด้านการนับจำนวน
-ช่วยให้เด็กได้มีทักษะในด้านความคิด
-และรู้จักรูปภาพต่างๆมากขึ้น
*สมุดฝึกหัดนับจำนวนสำหรับเด็กนี้จะอยู่ในมุมเสรี

วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ครั้งที่ 4 วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม 2553

การแบ่งประเภทของสื่อ
-ตามระดับประสบการณ์การเรียนรู้ของผู้เรียนที่ได้รับจากสื่อ
การเรียนรู้คือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
-ตามลักษณะของสื่อและวิธีการใช้งาน
กรวยประสบการณ์ตามแนวคิดของ เอ็ดการ์ เดล
ประกอบด้วย
-ประสบการณ์ตรง
-ประสบการณ์รอง
-ประสบการณ์นาฏการหรือการแสดง
-การสาธิต
-การศึกษานอกสถานที่
-นิทรรศการ
-โทรทัศน์
-ภาพยนต์
-การบันทึกเสียง
-ทัศนสัญลักษณ์
-วจนสัญลักษณ์
*ประสบการณ์ตรง*
เป็นประสบการณ์ด้านที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดโดยการให้ ผู้เรียนไดรับประสบการณ์โดยตรงจากของจริง หรือด้วยการกระทำของตนเอง เช่น การจับต้องและมองเห็ห เป็นต้น
*ประสบการณ์รอง*
เป็นการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนเรียนจากสิ่งที่ใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด ซึ่งอาจเป็นของจำลองหรือสถานการณ์จำลองก็ได้
*ประสบการณ์นาฏการหรือการแสดง*
เป็นการแสดงบทบาทสมมติหรือการแสดงละครเพื่อเป็นการจัดประสบการณ์ให้แก่ผู้เรียนในเรื่องที่มีข้อจำกัดในยุคสมัย
*การสาธิต*
เป็นการแสดงหรือกระทำประกอบคำอธิบายเพื่อให้เห็นลำดับขั้นตอนของการกระทำนั้น
*การศึกษานอกสถานที่*
เป็นการให้ผู้เรียนรับประสบการณ์ต่างๆ ภายนอกสถานที่จริงอาจเป็นการท่องเที่ยว การเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ หือการสัมภาษณ์เหล่านี้ เป็นต้น
*นิทรรศการ*
เป็นการจัดแสดงสิ่งของต่างๆ การจัดป้ายนิเทศเพื่อให้สาระประโยชน์และความรู้แก่ผู้ชม
*โทรทัศน์*
โดยใช้ทั้งโทรทัศน์การศึกษาและโทรทัศน์เพื่อการเรียนการสอนเพื่อให้ข้อมูลความรู้แก่ผู้เรียนหรือผู้ชมที่อยู่ในห้องเรียนหรืออยู่ทางบ้านและใช้ส่งได้ทั้งในระบบวงจร
*ภาพยนต์*
เป็นภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกเหตุการณ์เรื่องราวลงบนฟิล์มเพื่อให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ทั้งภาพและเสียงโดยใช้ประสาทตาและหูหรืออาจจะเป็นการเห็นเพียงภาพเคลื่อนไหว
*การบันทึกเสียงวิทยุภาพนิ่ง*
เป็นได้ทั้งในรูปของแผ่นเสียงหรือเทปบันทึกเสียง
*ทัศนสัญลักษณ์*
เช่น แผนที่ แผนสถิติ หรือเครื่องหมายต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์แทนความเป็นจริงของสิ่งต่างๆ
*วจนสัญลักษณ์*
เป็นประสบการณ์ขั้นที่เป็นนามธรรมมากที่สุด ได้แก่ ตัวหนังสือในภาษาเขียนและเสียงของคำพูดในภาษาพูด
สรุป
1.เลือกสื่อการสอนที่สอกคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้
2.เลือกสื่อการสอนที่ตรงกับลักษณะของเนื้อหาของบทเรียน
3.เลือกสื่อการสอนให้เหมาะสมกับลักษณะของผู้เรียน
4.เลือกสื่อการสอนที่สอดคล้องกับจำนวนของผู้เรียน และกิจกรรมการเรียนการสอน
5.เลือกสื่อการสอนที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
6.เลือกสื่อการสอนที่มีลักษณะน่าสนใจและดึงดูดความสนใจ
7.เลือกสื่อการสอนที่มีวิธีการใช้งาน เก็บรักษา และบำรุงรักษาได้สะดวก



วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ครั้ง 3 วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม 2553

สื่อ (กิริยา) หมายถึง ทำการติดต่อให้ถึงกันชักนำให้รู้จักกัน (นาม)
สื่อการศึกษา (นาม) วิธีการ เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน หมายถึงอุปกรณืต่างๆ
ที่อาจเป็นวัสดุเครื่องมือหรือกิจกรรมที่ครูเลือกมาวางแผนใช้รวมเข้าไปในเนื้อหาของหลักสูตรวิชาต่างๆ
สื่อการเรียนการสอน หมายถึง สิ่งต่างๆ ที่เป็นส่วนเทคโนโลยีของการศึกษา เป็นพาหะที่จะนำสารหรือความรู้ไปยังผู้เรียนเพื่อให้เดการเรียนรู้ เช่น วิดีทัศน์เป็นสื่อการสอน เพราะวิดีทัศน์เป็นตัวนำสารไปให้กับนักเรียนเกิดการเรียนรู้
สื่อการเรียนการสอน หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเรา เช่น วัสดุ อุปกรณ์ และเทคนิควิธีการต่างๆ
คุณค่าสื่อการเรียนการสอน
- ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจบทเรียนได้เร็วขึ้น
- ช่วยให้สนใจบทเรียนและใช้ประสาทสัมผัสในการรับรู้ (ปาก ตา หู จมูก มือ)
- ทำให้เข้าใจบทเรียนเนื้อหาที่ยุ่งยากซับซ้อนได้ง่ายขึ้นในระยะเวลาอันสั้นและเกิดความคิดรวบยอดในเรื่องนั้นได้ถูกต้อง
- ให้ประสบการณ์รูปธรรมแก่ผู้เรียน และเกิดความประทับใจจำได้นาน
- ช่วยในการศึกษาหาความรู้สามารถนำประสบการณ์เดิมไปสัมพันธ์กับสิ่งใหม่ได้ต่อเนื่องกัน
- ส่งเสริมความคิดการแก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรค์
- ช่วยให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอนมากขึ้น
- ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการเรียนการสอน
- ช่วยลดการบรรยายของครูผู้สอน
- ผู้สอนมีการตื่นตัวในการผลิตสื่อต่างๆ ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น
หลักการเลือกสื่อการสอน
1.สื่อนั้นต้องสัมพันธ์กับมาตรฐานการเรียนรู้และผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
2.เลือกสื่อที่มีเนื้อหาถูกต้อง
3.เป็นสื่อที่เหมาะสมกับวัยระคับชั้นความรู้และประสบการณ์ของผู้เรียน
4.สื่อนั้นควรสะดวกในการใช้มีวิธีใช้ไม่ซับซ้อนยุ่งยากเกินไป
5.ต้องเป้นสื่อที่มีคุณภาพเทคนิคการผลิตที่ดีมีความชัดเจนและเป็นจริง
6.มีราคาไม่แพงจนเกินไปหรือถ้าจะผลิตเองหรือคุ้มกับเวลาและการลงทุน
ขั้นตอนในการใช้สื่อ
1.ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
2.ขั้นดำเนินการสอนหรือประกอบกิจกรรมการเรียน
3.ขั้นวิเคราะห์และฝึกปฎิบัติ
4.ขั้นสรุปบทเรียน
5.ขั้นประเมินผู้เรียน
หลักการใช้สื่อการเรียนการสอน
1.เตรียมตัวผู้สอน
2.เตรียมจัดสภาพแวดล้อม
3.เตรียมพร้อมผู้เรียน
4.การใช้สื่อ
5.การติดตามผล
หลักการใช้สื่อการเรียนและการวางแผน
-การเลือกดัดแปลงหรือออกแบบสื่อ (Select,Modify or Design Materials)
1.เลือกจากสื่อที่มีอยู่แล้ว
2.ดัดแปลงสิ่งที่มีอยู่
3.ออกแบบสื่อใหม่
การใช้สื่อ(Utilize Materials)
-ดูหรืออ่านเนื้อหาเหล่านั้นก่อนเป็นการเตรียมตัว
-จัดเตรียมสถานที่ ที่นั่งเรียน อุปกรณ์ เครื่องมือและสิ่งต่างๆ
-เตรียมตัวผู้เรียนโดยการใช้สื่อนำเข้าสู่บทเรียน

ครั้งที่ 2 วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน 2553

สื่อการเรียนการสอน
สื่อ คือ ตัวกลางที่ถ่ายทอดไปยังผู้ฟัง ผู้รับจากผู้ส่งการ
-เด็กปฐมวัย = เด็กที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปีบริบูรณ์ การอบรมและเลี้ยงดูแก่เด็กปฐมวัยมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเด็กวัยนี้ต้องการการเรียนรู้ในสิ่งแวดล้อมรอบๆตัว ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ด้าน
- 1. ด้านร่างกาย (Physical หรือ Psycho-motor development
- 2.ด้านสติปัญญา (Cognitive development)
- 3.ด้านจิตใจ-อารมณ์ (Emotional development)
- 4. ด้านสังคม (Social development)
- 5. ด้านจิตวิญญาณ (Spiritual development)

ครั้งที่ 1 วันพฤหัสบดี ที่ 17 มิถุนายน 2553

อาจารย์ ปฐมนิเทศ
1.นักเรียนทุกคนมีใบรายชื่อ
2.ทำเล่มประวัติ 1เล่มสำหรับ1ห้องเรียน มีประวัติของนักศึกษาทุกคนในห้องเรียน
3.ทำ Blogger ของแต่ละคน นักศึกษาต้องบันทึกทุกครั้งว่าเรียนอะไรบ้างลงในบล็อกทุกสัปดาห์